อย่างแรกก็คือ...เธอดูไม่เหมือนมนุษย์เอาเสียเลย เธอดูคล้ายกับหุ่นจำลองชนิดที่พบได้ตามร้านเสื้อผ้าทั่วไปมากกว่า และที่น่าแปลกยิ่งไปกว่านั้น เธอสามารถใช้มือหยิบจับสิ่งของได้ ทั้งยังมีเลือดเนื้อเหมือนกับมนุษย์ทั่วไปทุกประการ ใบหน้าของเธอเรียบเฉยไร้อารมณ์เหมือนหุ่น ไม่มีคิ้ว และโปะเครื่องสำอางหนาเตอะ
มีซากลูกแมวตัวหนึ่งติดแน่นอยู่กับกรามของเธออย่างผิดธรรมชาติจนทำให้มองไม่เห็นฟันแม้แต่ซี่เดียว เลือดยังคงไหลอาบชุ่มเสื้อกาวน์และเจิ่งนองเต็มพื้น ทันใดนั้น หญิงสาวก็กระชากซากลูกแมวตัวนั้นออกมาจากปาก ขว้างมันออกไป แล้วล้มฟุบลงกับพื้น
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามายังโรงพยาบาล จนถึงตอนที่เธอถูกพาไปทำความสะอาดร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการให้ยาระงับประสาท หญิงสาวดูทั้งสงบ ไร้อารมณ์ และไร้การเคลื่อนไหว แพทย์ตัดสินใจว่าการควบคุมเธอไว้จนกว่าเธอจะได้สติและไม่แสดงอาการขัดขืนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หญิงสาวไม่ตอบสนองใดๆทั้งสิ้น และเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ต่างรู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้องจ้องมองดูเธอนานเกินกว่าไม่กี่วินาที

มหาศาล เจ้าหน้าที่สองนายถึงกับต้องช่วยกันกดร่างของเธอลงกับเตียง เมื่อเห็นว่าเธอกำลังพยายามลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์เช่นเดิม
หญิงสาวค่อยๆหันไปมองแพทย์หนุ่มผู้หนึ่งด้วยดวงตาไร้อารมณ์ แล้วจึงทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด....เธอยิ้ม
เมื่อเธอทำเช่นนั้น แพทย์หญิงคนหนึ่งถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความสะพรึงกลัว ในปากของหญิงสาวนั้นไม่ใช่ฟันของมนุษย์ หากแต่เป็นเขี้ยวยาวอันแหลมคม ยาวเกินกว่าจะที่หญิงสาวจะสามารถปิดปากสนิทได้โดยไม่เจ็บตัว
แพทย์คนหนึ่งหันกลับไปมองเธออยู่ชั่วครู่ ก่อนจะถามออกไป "แกเป็นตัวอะไรกันแน่?!"
หญิงสาวโน้มคอลงจนอยู่ในระดับไหล่เพื่อสังเกตท่าทางของชายหนุ่มผู้นั้น เธอยังคงฉีกยิ้มอยู่
ทุกอย่างหยุดนิ่งไปพักใหญ่ ได้ยินเพียงเสียงของฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ถูกเรียกตัวมากำลังเดินมาตามทางเดินเท่านั้น
ทันทีที่แพทย์หนุ่มได้ยินเสียงฝีเท้า หญิงสาวก็พุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว ฝังเขี้ยวของเธอลงในลำคอของชายหนุ่ม เจาะคอหอยเขาแล้วปล่อยให้เขาล้มลงกับพื้น พยายามไขว่คว้าหาอากาศขณะที่กำลังสำลักเลือดของตน
เธอยืนขึ้นแล้วโน้มตัวลงไปหาเขา ใบหน้าอยู่ใกล้กันจนน่ากลัว ขณะที่สัญญาณชีพเริ่มจางหายไปจากดวงตาของชายหนุ่ม
เธอโน้มตัวใกล้เข้าไปอีก แล้วกระซิบที่ข้างหูเขา
"ฉัน...คือ...พระเจ้า..."
แววตาของแพทย์หนุ่มเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว ขณะที่เขามองหญิงสาวลุกขึ้น แล้วเดินออกไปทักทายเหล่าเจ้าหน้าที่รปภ. ภาพสุดท้ายที่เขาเห็น คงเป็นภาพของหญิงสาวที่กำลังดูดเลือดพวกเขา...ทีละคน
แพทย์หญิงที่รอดมาจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้ตั้งชื่อหญิงสาวผู้นี้ว่า "The Expressionless" (ไร้ความรู้สึก)
ไม่มีใครได้เห็นหญิงสาวผู้นั้นอีกเลย...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น